การอ่านไพ่แบบสองใบเป็นวิธีการอ่านไพ่เบื้องต้นที่มีความซับซ้อนมากกว่าอ่านไพ่แบบหนึ่งใบ แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนและยุ่งยากมากนักสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณจับไพ่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบเท่านั้นเอง เมื่อคุณจับไพ่ขึ้นมาสองใบแล้วอ่านไพ่โดยยึดหลักว่าไพ่ใบแรกเป็นความหมายหลักแล้วไพ่ใบที่สองเป็นตัวเสริมหรือคำขยาย นั่นทำให้การอ่านไพ่ของคุณมีมิติและเนื้อหาที่กว้างมากขึ้น เช่น
เมื่อคุณจับไพ่ใบที่หนึ่งได้ Moon Light
ที่มีความหมายว่า “คุณมีความกระจ่างแจ้งในใจ” และจับไพ่ใบที่สองได้ Rain ที่มีความหมายว่า “ชำระล้างความรู้สึกหนึ่งด้วยความรู้สึกหนึ่ง” หากนำสองใบมารวมความกันก็จะได้ความว่า “ตอนนี้คุณจิตใจกระจ่างชัดแล้วเพราะได้ล้างความรู้สึกไปจนหมดสิ้นแต่นั่นก็เป็นจากความรู้สึกหนึ่งไปสู่ความรู้สึกหนึ่งแต่นั่นก็ทำให้จิตใจคุณแจ่มใสอยู่ดี”
และหากใบที่สองเปลี่ยนไปการอ่านไพ่ก็จะเปลี่ยนไปด้วย เช่น เปลี่ยนจาก Rain ไปเป็น Into The Wild ที่มีความหมายว่า “อยากปลีกตัวไปสู่ธรรมชาติ ต้องการผ่อนคลายกับธรรมชาติ” ความหมายรวมก็เปลี่ยนไปเป็น
“ตอนนี้คุณจิตใจกระจ่างชัด แจ่มใสแล้ว เมื่อคุณได้เข้าป่าไปอยู่กับธรรมชาติ คุณชัดเจนแล้วว่าอยากพักผ่อนจิตใจโดยการเข้าป่า” จะเห็นว่าความหมายของไพ่เปลี่ยนไปตามไพ่ที่เปิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหนก็มีผลต่อการอ่านไพ่ทั้งนั้น
บางครั้งเราอาจจะเปิดไพ่ขึ้นมาโดยตั้งคำถามก่อน เช่น “ปีนี้ฉันจะเป็นอย่างไรกันนะ?” แล้วเปิดได้ไพ่ The Three Hares ที่มีความหมายว่า “ความสุขวนๆ ไป ไม่สิ้นสุด” และอีกใบคือ Binkyday ที่มีความหมายว่า “มีความสุขจนกระโดดโลดเต้น คุมความสุขไม่อยู่กันไปเลย” ก็จะแปลความหมายรวมกันไปได้เลยว่า “คุณจะมีความสุขและวันดีๆ ที่จะทำให้คุณกระโดดโลดเต้นด้วยความสุขวนๆ ไปตลอดทั้งปี”
ในคำถามเดียวกันถ้าหากไพ่ใบแรกเปลี่ยนไปล่ะ เปลี่ยนจาก The Three Hares เป็น Warren ที่มีความหมายว่า “การได้เจอกับสังคมและผู้คนมากมาย” ก็จะสามารถตีความหมายรวมได้ว่า “คุณจะได้เจอกับผู้คนมากมายในปีนี้ การได้ไปอยู่สังคมใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนในปีนี้แต่นั่นก็นำความสุขมาให้คุณมากๆ เลย”
การอ่านไพ่แบบสองใบไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมครับ เพียงแค่จำความหมายของไพ่ให้ได้และอ่านไปตามความรู้สึกของคุณมันก็จะทำให้คุณมั่นใจและหากไพ่ขึ้นมาไม่ดีก็ทำให้คุณได้ระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้นอย่าไปกลัวครับ ขอให้อ่านไพ่อย่างมีความสุขครับ